" การที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์นี้ มิได้มาตัวเปล่า
ต่างมีบุญและบาปที่ทำไว้ในอดีตติดมาทุกคน
ต่างกันแต่มากบ้างน้อยบ้าง ไม่ช้าเราก็ต้องตายดอก
อย่ามาแบกเอาบาปเพิ่มไปอีกเลย
ลาภสักการะอันหมุนลงได้เป็นราคาเงินนั้น
เป็นสมบัตินอกกายตายแล้วเอาไปไม่ได้ดอก
มันเป็นของใช้สอยประจำโลก
เราตายแล้วก็ตกเป็นของคนอื่น เขาอาศัยใช้ต่อไป
ใครจะว่าเป็นของใครไม่ได้ทั้งนั้น
โลกมนุษย์เป็นแหล่งกลางสำหรับอาศัยสร้างบุญ สร้างบาป "
เรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา
ตามคัมภีร์วิสุทธิมรรคนั้นเป็นเรื่องใหญ่เป็นเรื่องยาก ผู้ไม่ใช่นักปฏิบัติแล้ว
ยากที่จะนำมาแสดงให้แจ่มแจ้ง ให้เป็นผลปฏิบัติได้ แต่หลวงพ่อสด
วัดปากน้ำแสดงได้แจ้งชัด และชี้ทางปฏิบัติให้โดยตรง จึงสมควรเถิดไว้ในฐานันดรพระธรรมกถึกชั้นเยี่ยม
ซึ่งข้าพเจ้าขอกราบแสดงความเคารพอย่างสูงต่อท่านไว้ในที่นี้ด้วย
ที่ข้าพเจ้าเอาเรื่องของวัดมาพูดโดยยืดยาวเช่นนี้
ความมุ่งหมายก็เพื่อบรรเทาบาปให้แก่ผู้แพร่ข่าวอกุศล
เพราะการกล่าวเท็จใส่ไคล้ผู้มีศีลเช่นนี้เป็นบาปหนักหนา
เพื่อว่าเขารู้ตัวจะยับยั้งกรรมอันชั่วนี้เสียได้ ข้าพเจ้าก็จะพลอยอนุโมทนา
แล้วจะมีส่วนได้บุญอันนับเนื่องในปัตตานุโมทนามัยด้วย
ท่านทั้งหลาย
การที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์นี้ มิได้มาตัวเปล่า
ต่างมีบุญและบาปที่ทำไว้ในอดีตติดมาทุกคน ต่างกันแต่มากบ้างน้อยบ้าง
ไม่ช้าเราก็ต้องตายดอก อย่ามาแบกเอาบาปเพิ่มไปอีกเลย
ลาภสักการะอันหมุนลงได้เป็นราคาเงินนั้น เป็นสมบัตินอกกายตายแล้วเอาไปไม่ได้ดอก
มันเป็นของใช้สอยประจำโลก เราตายแล้วก็ตกเป็นของคนอื่น เขาอาศัยใช้ต่อไป
ใครจะว่าเป็นของใครไม่ได้ทั้งนั้น โลกมนุษย์เป็นแหล่งกลางสำหรับอาศัยสร้างบุญ
สร้างบาป โลกนรก โลกสวรรค์ เป็นเพียงโลกที่คอยรับรองผลบุญ - บาป เท่านั้น
เราได้มาเกิดอยู่ในโลกอันเป็นแหล่งกลางเช่นนี้แล้ว
นับว่าเราได้มีโอกาสที่จะเพิ่มบุญผ่อนบาปให้เบาลง
ให้เบาลงกว่าที่เราแบกมาจากอดีตนั้นเถิด อย่าเติมเข้าไปอีกเลย ไหน ๆ
เราก็ต้องตายแน่ อย่ามาหอบเอาบาปเพิ่มไปอีกเลย
อนึ่ง การอ่านหนังสือเรื่อง
"ธรรมกาย" นี้ ถ้าได้รู้แนวปฏิบัติ บ้างแล้วจะเข้าใจได้แจ่มแจ้งดี
เพื่อประโยชน์ดังกล่าวนี้ ข้าพเจ้าจึงเขียนบันทึกแนวสอน วิธีทำสมาธิ
โดยย่อของท่านไว้ท้ายหนังสือเล่มนี้ ถ้าต้องการรู้ละเอียดอ่านหนังสืออีกเล่มหนึ่ง
ซึ่งท่านเคยแจกกับผู้ไปเรียนสมาธิกับท่าน หนังสือเล่มนั้นเป็นแบบเจริญสมาธิโดยตรง
(คือที่ข้าพเจ้าใช้คำว่าตามแบบ)
แต่ว่าการเรียนสมาธินั้น
ถ้าจะเอากันให้ได้ผลจริงจังแล้วต้องมีอาจารย์ จะทำสุ่มไปไม่ใคร่ได้ผล
แม้เราได้อ่านตำรับตำราในทางนี้ เช่นวิสุทธิมรรค เป็นต้น
ถ้าไม่มีอาจารย์แนะนำวิธีปฏิบัติอีกชั้นหนึ่งแล้ว ก็ยากที่จะปฏิบัติให้ได้ผล
เพราะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่อาจารย์จะพึงแนะนำอีกมากหลาย
สมาธิ เป็นยอดคำสอนในพระพุทธศาสนา
ที่ว่ายอดนี้หมายความว่าเป็นหลักสำคัญยิ่งในจำพวกคุณธรรม ๓ ประการ คือ ศีล สมาธิ
ปัญญานั้น ศีลเป็นส่วนประกอบ คือเป็นเพียงเหตุที่จะให้ดำเนินไปสู่สมาธิ
ส่วนปัญญานั้นเป็นผลของสมาธิ จุดมุ่งหมายสำคัญจึงอยู่ที่สมาธิตัวกลาง
ซึ่งต้องทำให้เกิดมีขึ้น ดังบาลีในวิสุทธิมรรคยืนยันว่า นตฺถิ ฌานํ อปญฺญสฺส นตฺถิ
ปญฺญา อฌายิโน (นัตถิ ฌานัง อะปัญญัสสะ นัตถิ ปัญญา อะฌายิโน) ซึ่งแปลความว่า
ฌานย่อมไม่มีแก่ผู้ไร้ปัญญา ปัญญาย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่มีฌาน
และอานิสงส์ของสมาธินั้นก็มีอยู่ว่า บุคคลผู้ได้สมาธิแล้วย่อมได้รับอานิสงส์ ๕
ประการ คือ:-
๑. ความสุขในปัจจุบัน
๒. วิปัสสนาปัญญา
๓. ฌาน
๔. ภพอันวิเศษ
๕. นิโรธ
ฉะนั้น
สมาธิจึงเป็นเรื่องที่เราควรสนใจ
เท่าที่ข้าพเจ้าได้ฟังมา
วิธีปฏิบัติของหลวงพ่อวัดปากน้ำ มีผู้กล่าวออกความเห็นกันไปหลายอย่างต่าง ๆ กัน
พวกหนึ่งว่า เป็นฌานโลกีย์ พวกหนึ่งว่า ติดรูป บางพวกว่า ติดนรกสวรรค์
แต่อีกพวกหนึ่งว่า ท่านเลยเถิดไปถึงนิพพาน ซึ่งมองไม่เห็น
ข้าพเจ้าเคยนำวาทะเหล่านี้ไปสนทนากับผู้ปฏิบัติในสำนักหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
เขาตอบขบขันเหมือนกัน เขาว่าที่ว่าติดรูปนั้นดีนะ
ให้มันรู้ว่าติดรูปเถอะจะได้มีโอกาสแกะรูปออก
แต่ข้อสำคัญว่าเราไม่รู้ว่าติดรูปนี่ซี เมื่อไม่รู้ว่าติดเราก็ไม่รู้จักรูป
เมื่อเราไม่รู้ว่าติดเราก็ไม่ได้แกะ เมื่อเราไม่แกะมันจะหลุดได้อย่างไร
เหมือนของโสโครกติดหลังเสื้อที่เราสวมอยู่
เมื่อเราไม่รู้ว่ามันติดเราก็ไม่พยายามเอาออก แล้วมันจะไปไหน ฟังดูก็แยบคายดี
แต่สำหรับความเห็นข้าพเจ้านั้น
เห็นควรรวมวาทะที่ว่าติดรูปกับวาทะที่ว่าเป็นฌานโลกีย์
รวมวินิจฉัยเสียเป็นข้อเดียว เพราะตามที่ว่านี้คงหมายถึงรูปฌาน
เมื่อเช่นนั้นทางที่จะปลดเปลื้องความสงสัยของเจ้าของวาทะเหล่านี้ก็ง่ายขึ้น
สมเด็จพระบรมศาสดาก่อนที่จะได้ตรัสรู้นั้น พระองค์ผ่านรูปฌาน อรูปฌานหรือเปล่า
ข้อนี้จะต้องรับกันว่าผ่าน ก็เมื่อเช่นนี้ ใครจะปฏิเสธได้
หรือว่าโลกิยะฌานนั้นจะไม่เป็นอุปการะแก่พระองค์ในการตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ความข้อนี้ข้าพเจ้าเคยนำไปสนทนาวิสาสะกับพระเถระบางรูป
ซึ่งฝักใฝ่ทั้งปริยัติและปฏิบัติ ท่านได้กล่าวอุปมาให้ฟังว่าการข้ามแม่น้ำหรือมหาสมุทร
ถ้าไม่ใช้เรือหรือเครื่องบินเป็นพาหนะแล้ว มันจะข้ามไปได้อย่างไร ในที่สุด
ท่านยืนยันว่าฌานโลกีย์นั้นแหละยังพระองค์ให้ข้ามถึงซึ่งฝั่งโลกุตร
เมื่อนำเอาบาลีข้าต้นมาประกอบการวินิจฉัย ความข้อนี้จะแจ่มใสยิ่งขึ้น เพราะคำว่า
"นตฺถิ ปญฺญา อฌายิโน" นั้นเป็นหลักอยู่ ซึ่งแปลได้ความอยู่ชัด ๆ ว่า
ปัญญาย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่มีฌาน ดังนี้ เราจะไปยกวาทะ ติฌานโลกีย์อย่างไรกัน
อันวาทะที่ว่าติดนรกสวรรค์นั้น
ข้อนี้น่าเห็นใจผู้สงสัย เธอคงจะไม่ได้มีโอกาสไปฟังการแสดงธรรมของหลวงพ่อสด
วัดปากน้ำเสียเลย เธอคงจะไปฟังหางเสียงของบางคนที่ฟังไม่ได้ศัพท์จับเอาไปกระเดียดเข้าแล้ว
เพราะการแสดงธรรมนั้น เมื่อพูดถึงเรื่องบาปบุญคุณโทษก็ต้องอ้างเรื่องนรกสวรรค์
ท่านมีอะไรพิสูจน์แล้วหรือว่านรกสวรรค์ไม่มี
ท่านมีปัญญาพอแล้วหรือว่านรกสวรรค์นั้นไม่มีผู้รู้ผู้เห็น ท่านได้เคยสนใจอ่านวิสุทธิมรรคบ้างหรือเปล่า
ท่านเคยสนใจในคำว่า ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญฺญูหิ ดีแล้วหรือว่ากินความเพียงไร
หรือตัวท่านมีภูมิปัญญาเหนือพระคันถรจนาจารย์เหล่านั้น ขอจงใคร่ครวญเอาเอง
ส่วนวาทะที่ว่าเลยเถิดไปถึงนิพพานนั้น ข้าพเจ้าจะขอพูดแต่โดยย่อ เพราะถ้าจะพูดกันกว้างขวางแล้ว
จะเกินหน้ากระดาษหนังสือนี้ จะต้องเป็นอีกเล่มหนึ่งต่างหาก
ท่านคงจะได้อ่านคำถวายวิสัชนาของพระเถรานุเถระ ๑๘ ความเห็น
ที่พิมพ์แจกกันแพร่หลายอยู่แล้ว ในหนังสือนั้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชปุจฉาถึงเรื่อง "นิพพาน" ว่าคืออะไร
พระเถรานุเถระ ๑๘ รูป ถวายความเห็นด้วยโวหารต่าง ๆ กัน
แต่ในที่สุดมีรูปหนึ่งถวายวิสัชนาหลักแหลม โดยกล่าวว่า แปลคำว่านิพพานนั้นไม่ยาก
ข้อยากอยู่ที่ ทำให้แจ้ง ท่านพูดทิ้งไว้แค่นี้เอง ขอให้เรามาคิดกันดูทีหรือ
ทำให้แจ้ง หมายความว่ากระไร นี่ก็จะเห็นได้แล้วว่า
เรื่องนิพพานนั้นเป็นของยากหรือง่าย คนซึ่งมีปัญญาอย่างสามัญจะพูดได้ไหม
เราก็ต้องรู้ตัวดีว่าไม่สามารถ เพราะเป็นวิสัยของมรรคญาณ
และการบำเพ็ญให้บรรลุมรรคญาณนั้นทำกันอย่างไรเรารู้ไหม ถ้าเราไม่รู้
จะแปลว่าคนอื่นก็ไม่รู้เหมือนกับเรากระนั้นหรือ สิ่งที่เราก็ไม่รู้
สมควรหรือที่เราจะยกวาทะกล่าวถึงผู้อื่น ในที่สุดข้าพเจ้าเห็นว่า
ทางที่ดีที่สุดเราควรปฏิบัติตัวของเราเองให้รุดหน้าไปตามแนวปฏิบัติ
ดีกว่าจะมามัววิจารณ์ผู้อื่น อย่าลืมคำว่า "สนฺทฏฺฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก
โอปนยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญฺญูหิ" (สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก
โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ที่เป็นประโยชน์คะ
ตอบลบขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ที่เป็นประโยชน์คะ
ตอบลบ